คุณพี่คุณป้าเกิดอาการเครียดขึ้นมาทันทีครับเมื่อเห็นตี๋น้อยหยิบหินdziขึ้นมาส่องด้วยแว่นขยาย ทำไมมันต้องเอาจริงเอาจังกันขนาดนั้น มันจะส่องหาหวยหรืองัย....ผมเองก็ตอบไม่ถูกครับ ว่าทำไมต้องส่องดู จะดูธรรมดาเหมือนคนอื่นๆไม่ได้หรือยังงัย เอามาลูบๆไล้ๆ กำไว้เล่นๆ ผมคิดว่าถ้าทำอย่างนั้น มันไม่เป็นตัวของตัวเองครับ

เห็นมีกระทู้ถามเข้ามาตลอดว่าอันนี้แท้หรือเปล่า แท้เทียมดูยังงัย ผมเองก็ไม่ใช่เซียนหินdziครับ แต่อย่างน้อยขอบอกกล่าวประสบการณ์ในการพิจารณาเลือกหินมา ณ โอกาสนี้เป็นการแลกเปลี่ยนนะครับ ประเด็นหนึ่งที่ผมต้องขอบอกไว้ก่อนเพื่อรับประกันความผิดหวังก็คือ ผมไม่ฟันธงว่าที่ผมจะอธิบายต่อไปนี้จะตัดสินแท้เทียมได้ เพราะผมคิดเสมอว่าที่ส่องดูนั้นเพื่อพิจารณารายละเอียดต่างๆว่าหินเม็ดนั้นน่าเป็นเจ้าของหรือไม่ คุ้มค่าหรือไม่ เท่านั้นเองครับ

อย่างแรกนะครับ ดูผ่านๆตาก็ครับ พิจารณาลวดลายรูปทรงของหินก่อนครับ เพราะบางทีแค่ขั้นแรกนี้เราก็ตัดหินบางเม็ดที่ไม่น่าสนใจออกไปได้เยอะเลยทีเดียว ลวดลายและรูปทรงของหินdziนั้นต้องค่อยๆศึกษากันไปนะครับ หาดูตามเว็บต่างที่เชื่อถือได้ ตามตำรับตำราต่างประเทศ สังเกตรูปทรงของหินว่ามีลักษณะอย่างไร อ้วนป้อมหรือผอมเพรียวหรือยาวเรียวเป็นแท่งๆ ต้องสังเกตกันให้ดีนะครับ ในเรื่องลวดลายก็จะยากขึ้นไปอีกนิดเพราะต้องจำได้ว่าลวดลายอย่างไรเป็นลายใหม่ลายเก่าหรือเป็นลายของหินdziแน่ๆ ส่วนลายเก๋าๆ ก็แล้วแต่ความสนุกของแต่ละท่านจะพาไปนะครับ

พอเห็นลวดลายและรูปทรงว่าโอเชแล้ว เป็นdziแหละ ทีนี้ลองหยิบขึ้นมาดูครับ พิจารณาความเป็นหินเป็นขั้นต่อไปครับ สัมผัสพื้นผิวของdziเม็ดนั้น แตะๆดูว่าเป็นหินจริงๆหรือเปล่า ยกขึ้นส่องไฟช่วยอีกแรงครับ เพราะหินบางเม็ดจะโปร่งแสงทำให้เราเห็นอะไรได้ง่ายขึ้น แต่บางเม็ดถ้าไม่โปร่งแสงก็ดูหาลายหินกันต่อไปครับ (ตรงนี้อยากจะบอกซักนิดว่าการโปร่งแสงหรือไม่นั้นไม่ใช่ประเด็นครับ เป็นแค่ส่วนช่วยในการดูลายชั้นของหินหรือดูความเป็นหินเท่านั้นเองครับ) ลองดูที่ปากรูทั้งสองด้านด้วยนะครับ ส่องเข้าไปพิจารณาในรูทั้งสองด้านด้วย ส่องให้ทั่วทั้งเม็ดแหละครับ บางครั้ง ส่องที่ปากรูทั้งสองด้านก็ทำให้ถึงบางอ้อได้ง่ายขึ้นเหมือนกันนะครับลองดูครับ

เสร็จแล้วลองส่องไฟลงบนหินครับ ดูแสงที่กระทบกับหินเม็ดนั้นว่าส่วนที่สะท้อนแสงออกมานั้น เป็นเส้นบางๆหรือเป็นแถบหนาๆ และมีขนาดของแถบของแสงที่สะท้อนเท่ากันทั้งเม็ดหรือไม่เท่ากัน ซึ่งตรงนี้ ผู้รู้บางท่านก็ชี้แนะว่าเป็นการดูว่าหินเม็ดนั้นเป็นงานทำมือหรือเปล่า ซึ่งผมเองก็ไม่ซีเรียสนะ แต่รู้ไว้ก็ดีครับ เกิดไปเจอราคาคุยว่าเป็นร้อยปี แต่ตรงที่แสงมันสะท้อนออกมาแถบแสงมันเท่ากันทั้งเม็ดเลยเนี้ย มันก็น่าฉงนนะครับ ถึงตรงนี้บางเม็ดที่ลายสวยทรงดีแต่หาความเป็นหินไม่เจอ ก็พยายามอย่าเสี่ยงครับ

ขั้นต่อไป ดูที่ลายที่วาดลงบนหินครับ โดยส่วนตัวผมเองจะเลือกลายที่ไม่ลอยครับ คือมันจะต้องดูกลมกลืนกับเนื้อหิน และเป็นลายที่จมลงในเนื้อหิน ลองส่องดูครับว่าลายที่ว่าลงลึกเข้าไปในเนื้อหินหรือเปล่า ส่องดูตามขอบๆของลายครับ ลองดูครับ ลายที่วาดกับเนื้อหินจะกลืนเป็นเนื้อเดียวกันครับไม่กระโตกกระตากจนเกินงามครับ (ที่ผมเลือกลายจมเช่นนี้เพราะคิดว่า ลายที่วาดแค่พื้นผิวนั้นอาจจะจางไปได้เมื่อใช้งานนานๆไป ก็เท่านั้นเองครับ)

ส่องต่อไปครับ ดูพื้นผิวโดยละเอียดอีกทีครับ พิจารณาร่องรอยที่ถูกกระทำโดยสภาพอากาศครับ จะเห็นได้ว่าผิวเขาจะไม่เรียบเงาวับเสมอไปนะครับ อาจจะมีหลุมมีบ่ออยู่ซักหน่อยก็เป็นธรรมชาติดีครับ ร่องรอยที่ว่านี้จะมีลักษณะที่ต้องสังเกตให้ละเอียดนะครับ เพราะปัจจุบันนี้มีการทำเลียนแบบร่องรอยที่ว่าเพื่อให้ดูเป็นหินเก่า ซึ่งผมเรียกว่า ตอกกลม คือเขาคงจะเอาเหล็กที่ปลายเป็นขอบวงกลมมาตอกเอาแหละครับ ก็ต้องสังเกตในเรื่องของขนาดของร่องรอยความลึกของร่องรอย ถ้าขนาดร่องรอยมีขนาดเดียวกันทั้งเม็ดแถมบางทียังลึกเท่ากันอีก เป็นผมก็รู้สึกหมั่นไส้บ้างแหละครับ ดูที่ขอบของร่องรอยที่ว่านี้ด้วยครับ ว่ามีความคมหรือมน รอยที่ดูคมๆก็น่าจะเป็นตอกกลมแหละครับ ผมว่านะ (บางเม็ดที่เป็นหินใหม่ก็อาจจะไม่มีร่องรอยที่ว่านี้ครับ ซึ่งก็น่าคบหา กว่าหินใหม่ที่ถูกตอกจนเยิน) ในเรื่องของร่องรอยการแตกลายของผิวหินนั้น ผมอยากจะบอกอย่างหนึ่งว่า ผมจะหลีกเลี่ยงหินจำพวกหินบิสกิตหินเครกเกอร์ที่ดูแตกลายงา ดูเก่าสุดๆครับ เพราะมันดูไม่สวยในสายตาของผม การที่เอาหินไปผ่านความร้อนสูงจนแตกลายนั้น มันดูน่ากินมากกว่าที่จะเอามาห้อยคอครับ แต่คุณพี่ที่ชอบให้มีแตกลายเยอะๆ ดูร้าวไปทั้งเม็ด ก็เชื่อมั่นในแนวทางต่อไปเถอะครับ เป็นตัวของตัวเองดีที่สุด

ท้ายที่สุดนี้ ก็...เชื่อในนิมิตของต้องเองละกันครับ แต่อย่าอุปาทานไปเองนะครับ คุณพี่บางท่านได้dziมา300บาทจากตลาดนัด ดูยังงัยก็เป็นdziที่ไม่น่าคบหา แต่ตกดึกคุณพี่กลับฝันเห็นชายชาวธิเบตมาร่ายคาถาเป่ากระหม่อมให้... อืมมม ถือว่าคุณพี่ได้ของดีแล้วแหละครับ

ผมไม่กล่าวถึงในเรื่องของ จุดแดงจุดดำ หรือจูซา ซินนิบาร์ นะครับ ไม่ใช่ว่าลืมนะครับ แต่ประเด็นนี้มันเป็นเรื่องของโบนัสครับ ถ้าส่องเห็นจุดแดงๆขนาดเท่าปลายเข็มหมุดจมอยู่ในเนื้อหิน ก็...เอาเถอะครับ

ที่ว่ามาทั้งหมดนี้ก็เป็นวิธีการเลือกหินdziของผมเองนะครับ จะผิดถูกอย่างไรก็แลกเปลี่ยนกันครับ แต่ถ้าพอจะมีประโยชน์อยู่บ้างก็ไม่ต้องSMSมาชิงโชคนะครับ แค่ช่วยภาวนาให้นายเป้ ฟ้าดิน ทำงานที่ค้างอยู่ให้เสร็จทันเวลาก็แล้วกันครับ