ผมว่าลองถามพี่เว็บมาสเตอร์ดูก็น่าจะได้นะครับ และถ้าต้องการความหลากหลายของข้อมูลก็ลองหาดูหลายๆร้านประกอบกันไป ส่วนเรื่องความหมายของตัวเลขต่างๆ ก็มีหนังสือผลิตออกมาเยอะจนเกินความจำเป็น แต่เนะนำว่า หนังสือต่างๆเหล่านั้น ก็แทบจะเหมือนกันราวกับน้ำหยดเดียว ทางที่ดีคือ เอาเอกสารต่างๆเป็นตัวตั้งแล้วลองสืบสัมภาษณ์จากกูรูทั้งหลาย

ข้อมูลเรื่องราคาค้าขายดูในอีเบย์ก็เวิร์คครับ จะได้มีข้อเปรียบเทียบเรื่องราคาทั้งในและต่างประเทศ

อย่างไรก็ตามเรื่องของหินdzi เป็นเรื่องที่อาจจะสืบค้นค่อนข้างยากในบางด้าน เช่นเรื่องประวัติความเป็นมาในแง่ของประวัติศาสตร์ บ้างก็ว่ามาจากต่างดาว บ้างก็ว่ามาจากสวรรค์

ปัญหาที่อาจจะพบก็คือ หินdziนั้นมีตั้งแต่สมัยใด ถ้าเราคิดว่าหินdziเป็นผลผลิตทางเชื่อความศรัทธาทางพุทธ นั้นหมายความว่าหินdziคงจะมีอายุไม่เกิน2500กว่าปีเป็นแน่ แต่ก็มีบางข้อมูลที่บอกว่าdziมีอายุกว่า4000ปี ก่อนพุทธเจ้าเกิดเสียด้วยซ้ำ หรืออาจจะมองครึ่งๆกลางๆว่า มีมา4000ปีนั่นแหละแต่ได้ใส่ความหมายตามพุทธในทีหลัง (เรื่องนี้มาหลักฐานพิสูจน์ยากครับ)

ผู้วิจัยควรตัดอคติในเบื้องต้นให้ได้ก่อนเป็นสำคัญ นั่นคือ พุทธแบบธิเบต ไม่เหมือนกับพุทธพรามห์พุทธจตุคามแบบไทย ความหมายที่เราเข้าใจกันเกี่ยวกับdzi มันเป็นผลผลิตจากกระแสบริโภคนิยม วัตถุนิยม ทุนนิยมชายขอบแบบที่เราเป็นอยู่(เช่นเรื่องความร่ำรวย โชคลาภ) เพราะฉะนั้นการหาoriginalของมันคงยากเย็นน่าดู

ทางที่ดีหลบตอหลักๆที่ผมว่า แล้วเน้นในเรื่องการตลาดของdzi ซึ่งมันก็น่าจะมีmodelใกล้เคียงกับตลาดพระเครื่องบวกกับตลาดอัญมณี

dziมีตลาดหลายระดับครับ ระดับสูงหน่อยจนถึงระดับกลางคงหาได้ตามห้างร้าน(ซึ่งต้องดูดีๆครับ)ตลาดระดับล่าง ก็แถวๆเยาวราชครับ

วางกรอบการวิจัยให้ชัดเจนทำpositionของการวิจัยให้ชัดเจนก่อนก็ดีครับ ไม่เช่นนั้นแล้ว รอวันตายสถานเดียวแน่ๆครับ .... ว่าแต่ว่าเป็นวิจัยของสาขาวิชาอะไรครับ แหะแหะ

ปีที่แล้ว มีคนทำแล้วครับ แต่ไม่ใช่ในแง่การซื้อขาย แต่เป็นเรื่องประวัติ น้องเขาหายไปเลยไม่ได้ติดต่อครับ ผมว่าค่อนข้างยากนะครับ ถ้าจะสอบถามเรื่องตัวเลข และวันนี้ลองสืบดูว่ามีร้านขายหินธิเบตเหลืออยู่กี่ร้าน

ถ้าต้องการข้อมูลอะไร ไม่เหลือบ่ากว่าแรง จะตอบให้

ขอบคุณมากๆครับผมที่แนะนำ มาให้ครับ

ลืมบอก วิชา Special Poblem ครับผม หัวข้อที่จะทำคือ การตลาดหินทิเบตในประเทศไทย ครับ

การตลาดจตุคามก็น่าสนใจเหมือนกันนะครับ

ตอนนี้โฆษณาจตุคาม มีมูลค่า อันดับหนึ่ง นะครับ เป็นไปได้

เหอๆ ขอบคุณมากๆครับ ส่วนเรื่อง การโต การบูม และการตก ของตลาดDZI ที่มีจตุคามเป็นตัวแปร ผมก้อสนใจมากๆๆๆครับ พยามยามหาอยู่ครับผม ท่านผู้ใดแนะนำมาก้อยินดีรับคำแนะนำและความรู้ทุกๆด้านครับผม ขอบคุณมากๆครับ ส่วนเรื่องตลาดจตุคำก็น่ากินน่าดู

ถ้าจำไม่ผิดนะ ผมว่าเคยมีงานของอ.ฉลองภาคประวัติศาสตร์ จุฬา เคยทำเกี่ยวกับเรื่อง พระเครื่อง (ถ้าจำไม่ผิดนะ) ผมเองก็เข้าไปนั่งฟังเขาพูดอธิบาย ก็ได้ใจความประมาณว่า พระเครื่องหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายมากบูมเอาอย่างมากหลังจากสงครามโลกครั้งที่สอง ซึ่งมีสาเหตุง่ายๆมาจากอาวุธขนาดเล็ก(small arm) ที่มีมากขึ้นจากการทำสงคราม และไทยเองก็พลอยฟ้าพลอยฝนไปด้วย ทั้งญี่ปุ่นเข้ามาตั้งฐาน ทั้งเสรีไทยที่ได้รับการสนับสนุนจากฝ่ายอเมริกา จบสงครามดังกล่าวเราก็เจอกับ เรื่องคอมมิวนิสต์อีกต่อหนึ่งแบบหนักหน่วง เพราะฉะนั้น ในเรื่องพุทธคุณก็จะเน้นเรื่องเหนียวเป็นหลัก ยิงไม่เข้าฟันไม่เข้า ถ้าแน่จริงก็คือยิงไม่ออก (กระสุนด้านไปเลย) รองลงมาก็จะเป็นเรื่อง มหาอำนาจ(พวกรบทัพจับศึกทั้งหลาย) เมตตามหานิยม(พวกข้าราชการอยากให้นายรัก) แล้วก็เมตตามหาเสน่ห์ อันนี้ไม่ต้องบอก กับพวกแก้กันคุณไสย จะยืนพื้นตลอด

ส่วนเรื่องโชคลาภ ร่ำรวย น่าจะมาทีหลังในแง่ของเวลา ซึ่งก็เป็นไปตามสภาพสังคมในช่วงต่างๆ ว่าเขาต้องการอะไร...ถ้าสืบจากเรื่องเหล่านี้ก็อาจจะอธิบายการบูม การตกได้นะครับ เช่นช่วงนี้เราก็เห็นชัดเจนเกี่ยวกับจตุคาม ซึ่งมีรวยสารพัดทั้งมีเหตุผลและปราศจากเหตุผล แหะ แหะ

ส่วนหินdziนั้นจากที่ทราบจากท่านเว็บมาสเตอร์ ก็จะทราบว่ามีความหมายในเรื่องการนำหลักธรรมมาใช้ ยึดถือหลักธรรมทั้งสิ้น แต่พอเข้าสู่ตลาดไทยในยุคทักษิโณมิก มันก็แปลงร่างให้เข้ากับสังคมเราเสีย จากยึดถือหลักธรรมมาเป็นจิกเงินจิกทองจิกผู้ชายให้อยู่มือ ลงทุนซื้อหินสองพันแต่จะถูกหวยสองแสน บ้างก็ว่าจะรวยแบบฟ้าผ่า ตื่นมารวยไม่รู้เรื่อง ฯลฯ...

พูดก็พูดเถอะ จิตใจเราเป็นอะไรไปกันแล้วเนี่ย ถ้าที่ผมอธิบายมาว่าเรื่องพุทธคุณ มันเป็นเรื่องที่ถูกกำหนดโดยยุคสมัย แล้วในช่วงนี้ ที่เราจะฆ่ากันเพราะคนๆเดียว ที่ภาคใต้ก็หวังแบ่งแยกดินแดน(ทั้งที่ไม่ได้ทำสาธารณูปโภคพื้นฐานเพื่อรองรับการแบ่งแยกเลยซักแมวเดียว) เด็กฆ่ากันตาย เป็นอาชญกรมากขึ้น ปล้นร้านทอง เดินๆอยู่ก็ถูกแทงเพียงเพราะมือถือเครื่องไม่กี่พัน แต่วัตถุบูชาทั้งหลายก็ยังมีแต่รวยนั่นรวยนู่น ทำไมไม่มีรุ่นตาสว่าง รุ่นสันติภาพ รุ่นสงบสุขบ้างน่ะ ... เซ็งเป็ดครับงานนี้

การขายหินใหม่ ราคาไม่แพง ผู้ซื้อส่วนใหญ่ก็อ่านความหมายของหินธิเบต ซึ่งแปลมาจากคัมภีร์โบราณ เป็นตัวแปรสำคัญ

การขายหินเก่า ราคาแพง ผู้ซื้อไม่ค่อยเน้นเรื่องความหมายเป็นหลัก แต่ซื้อเพราะว่าหายาก ต้องการสะสม หายากขนาดเอาเป็นว่าในเมืองไทยมีคนใส่ถึง 100 เม็ดหรือเปล่า ไม่แน่ยังไม่ถึงเลยครับ (เก่าแท้ๆ นะครับ ไม่ใช่เก่า 500 ปี 600 ปี ไม่มีนะครับ)

..เปนกำลังใจให้คับ ..

..

บทที่1 เสร็จไปแล้วครับ ตอนนี้กำลังรวบรวม ศาสตร์ต่างๆ มาอ้างอิงครับ ไม่ว่าจะเป็น ด้านวิทยาศาสตร์ เกี่ยวกับเรื่องพลังงานกระแสแม่เหล็กไฟฟ้าที่ทำให้ระบบเลือดของผู้ใส่ไหลเวียนขึ้น เรื่องของ จิตวิทยา เรื่องของมนุษย์ศาสตร์ ทฤษฏี ของ มาร์ชโลว์ สงสัยว่าว่างๆจะขออนุญาติไปศึกษากับ ท่านwebmaster หน่อยล่ะครับ ส่วนท่านใดมีบทความหรือทฤษฎี ผมยินดีรับข้อมูลทั้งหมดเหมือยเดิมนะครับ ขอบคุณผู้ที่มอบความรู้ให้เป็นวิทยาทานทุกๆเรื่อง และกำลังใจครับผม